วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ทริคง่ายๆเพื่อตาใสปิ๊งเป็นประกาย

วันๆ เราใช้ดวงตาทำงานตั้งแต่ตื่นจนถึงค่ำทุกวัน บางคนทำโอทีต่อตามผับจนเกือบสว่างก็ยังมี รีบมาเอาใจดวงตาด้วยการบำรุงรักษากันดีกว่า

1. ล้างครีมรอบดวงตาทุกวันเนื้อครีมที่เกาะกันเป็นก้อนแข็งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าหากว่าหลุดเข้าไปในดวงตาเป็นประจำก็จะไปขูดให้กระจกตาถลอกได้ สาวๆ ที่ต้องแต่งหน้าทุกวันจึงต้องอย่าลืมล้างครีมและมาสคาร่าที่ป้ายไว้ออกให้หมด สวยแล้วต้องรักษาความสะอาดด้วยถึงจะเพอร์เฟ็คท์
2. กินหอมใหญ่สีแดงเทียบกันแล้ว หอมใหญ่สีแดงมีสารเกอร์เซตินซึ่งต่อต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าหอมสีขาวเยอะเลย และสารอาหารตัวนี้เองที่จะป้องกันไม่ให้ต้อกระจกไม่มาราวีดวงตาสวยๆ ของคุณ
3. เหนื่อยนักพักสายตาบ้างดวงตาก็เหมือนกับอวัยวะส่วนอื่นๆ ที่รู้จักปวดเมื่อยอ่อนล้าเหมือนกัน การใช้สายตาโดยไม่พักเลยจะทำให้สมรรถภาพของสายตาแย่ลง ฉะนั้นทุกๆ 30 นาที ควรให้สายตาได้พักบ้างสัก 30 วินาที
4. สวมแว่นกันแดดการสวมแว่นก็เพื่อป้องกันรังสียูวีจาแสงแดดมาทำลายดวงตา โดยเฉพาะเวลานั่งในรถหรือเวลาอยู่กลางแดดจ้า นอกจากนี้สีของแว่นก็สำคัญ แว่นสีแฟชั่นพวกสีส้ม แดง เหลือง จะทำให้ประสาทตาต้องทำงานหนักขึ้น แต่ถ้าใส่เป็นสีฟ้าหรือสีเทาจะช่วยให้กล้ามเนื้อตาได้พักมากกว่า

5. กินผักโขมอาทิตย์ละ 2 ครั้งผักโขมอุดมไปด้วยสุดยอดสารอาหารบำรุงสายตา นั่นคือสารลูเทอิน ซึ่งานวิจัยบอกว่าช่วยป้องกันต้อกระจกและภาวะจอประสาทตาเสื่อมได้ดีมากๆ
6. ตรวจความดันเป็นประจำโรคความดันโลหิตไม่ได้ทำให้สุขภาพแย่อย่างเดียว ยังทำให้สุขภาพตาเสียไปด้วย เพราะความดันที่สูงกว่าปกติจะทำลายหลอดเลือดในดวงตา ฉะนั้นอย่ามองข้ามการตรวจความดันเป็นอันขาด ผลร้ายมีมากกว่าที่คุณคิด
7. เหยาะน้ำมันกันสักนิดน้ำมันที่ว่านี้คือน้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ เช่น กลิ่นมะลิ เปปเปอร์มิ้นต์ วานิลลา จะช่วยกระตุ้นคลื่นสมองส่วนหน้า ทำให้เกิดการตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า มีสมาธิและมองเห็นได้ชัดเจน วิธีใช้ก็ง่ายมาก แค่เหยาะน้ำมันกลิ่นที่คุณชอบลงไปที่ท้องแขนสัก 2-3 หยด หรือจะหยดใส่ผ้าเช็ดหน้าไว้สูดดมให้ชื่นใจก็ดูคุณหนูไม่เบา
8. กินมันเทศบ่อยๆ เนื้อมันเทศอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งช่วยเรื่องบำรุงสายตาโดยตรง ทำให้เห็นในที่มืดได้ดีขึ้น
9. ปรับจอคอมพิวเตอร์ลงอีกหน่อยแสงจ้าผสมรังสียูวีจากคอมพิวเตอร์เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สายตาแห้ง แต่วิธีแก้ปัญหาเล่นไม่ยาก แค่ปรับหน้าจอให้ต่ำลงกว่าสายตานิดหน่อย เพื่อที่เวลาเรามอง เปลือกตาบนจะได้หรี่ลงเล็กน้อย เหมือนเรากำลังหยีตาเวลาเจอแดด เป็นการป้องกันไม่ให้น้ำในดวงตาระเหยออกไป
10. ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกันเพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่า ตาสวยๆ ของหวานใจจะมีเชื้ออะไรแอบอยู่บ้าง ถ้าเราเอาผ้าเช็ดหน้าที่มีเชื้อโรคมาเช็ดตาก็อาจจะติดเชื้อตาแดงมาจากสุดที่รักก็ได้ แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าของคุณเองก็ควรจะเปลี่ยนเอาไปซักบ่อยๆ เช่นกัน
11. หยุดใช้เกลือ ความเค็มจัดของเกลือเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เกิดโรคต้อกระจกเร็วขึ้น ถ้าเปลี่ยนจากใช้เกลือมาใส่น้ำปลาหรือเครื่องเทศที่มีรสเค็มแทน จะช่วยป้องกันต้อกระจกได้ หรืออย่างน้อยก็ควรจะเลือกอาหารที่บนฉลากเขียนว่า "เกลือโซเดียมต่ำ" หรือ "ปราศจากเกลือ"
12. ปรับแอร์ออกจากตัวเวลานั่งรถ สาวๆ ควรจะปรับช่องแอร์ให้เบนออกห่างจากตัว อย่าให้แอร์เป่าใส่หน้าตรงๆ เพราะจะทำให้ตาแห้ง และในช่องแอร์ยังอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียซ่อนอยู่ การไม่ส่องแอร์เข้าหาตัวจึงเป็นวิธีปลอดภัยทั้งดวงตาและต่อสุขภาพด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก spicy

บีบีครีมคืออะไร?

หน้าขาวใสด้วย BB Cream สาวๆรู้ไหมว่าเทรนด์ใหม่ของการแต่งหน้าที่สาวเกาหลีเค้าฮิตกัน คืออะไร วันนี้จะแนะนำเจ้า BB Cream ที่สาวๆหลายคนอาจยังไม่รู้จักว่ามันมีประโยชน์อย่างไร เรามาทำความรู้จักเจ้า BB Cream กันนะจ๊ะ

BB Cream คืออะไร BB Cream ย่อมาจาก Blemish Balm Cream เป็นครีมปรับสภาพผิวหน้าให้เนียนใส ที่รวมทั้งเบสและครีมรองพื้น ในตัวเดียวกัน เหมาะกับสาวๆที่ผิวแพ้ง่าย สาวๆที่มีรอยแดงๆ เห่อบนใบหน้าเจ้าบีบีจะช่วยปรับสภาพสีผิวเราให้เป็นสีปกติ และยังปรับได้เข้ากับทุกสีผิว ดังนั้นบีบี ครีมจึงไม่มีเฉดสีให้เลือก
เหมาะสำหรับ- ใช้สำหรับปกปิดรอยแผลเป็นจากสิว รอยกระ รอยฝ้า - ช่วยปกปิดจุดด่างดำ และปกปิดริ้วรอยบนใบหน้า - ช่วยปรับสีผิวให้ใบหน้ากระจ่างใส - ช่วยให้ผิวหน้าเรียนเนียน - ช่วยควบคุมความมันได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ผลหลังการใช้ใช้แล้วจะทำให้หน้าขาวเนียนกระจ่างใส หน้าเรียบเนียนยิ่งขึ้น ทาแป้งแล้วติดทนนาน หน้าบางเบาแต่กระจ่างใส สวยแบบธรรมชาติทาแป้งอีกหน่อยก็หน้าเด้งแล้ว ปัดแก้มอีกนิดก็สวยเริ่ด ซึ่งเหมาะมากๆกับสาวๆที่ชอบแต่งหน้าโทนธรรมชาติ แต่งแบบบางเบาไม่ต้องทาหลายขึ้นตอนประหยัดเวลาอีกด้วย
ความแตกต่างสงสัยไหมว่าบีบีครีมต่างจากรองพื้นยังไงBB Cream จะมีทั้ง Base + Foundation + Sun Block + skincareพอทาแล้วจะบางเบากว่าทารองพื้น ปกปิดได้ไม่มากแต่ช่วยเรื่องปรับสีผิว และหน้าเนียนใส

เรื่องเล็บๆ

เรื่องเล็บๆ เกร็ดความงามไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง แต่ถ้าอยากให้เสน่ห์แรงงงง ต้องให้ความสำคัญกับ “เล็บ” น้อยๆ ของคุณด้วย (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย?!!)
เกี่ยวสิ...ไม่ว่าจะเป็นเล็บมือเล็บเท้า ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการเชิดชูเสน่ห์และบุคลิกภาพไม่แพ้ใบหน้า ต่อให้หน้าตาสวยงามเพียงใด แต่ถ้ามีเล็บมือเล็บเท้ายับเยิน แห้งกร้าน ซีดเหลือง ก็ดับฝันความงามของสาวๆ ได้เหมือนกัน
ว่าแล้ว How To ฉบับนี้ จึงมีเรื่องเล็บๆ เกร็ดความงามที่คุณสาวๆ ควรรู้ไว้มาฝากกัน
ธรรมชาติของเล็บ
- สาวๆ รู้หรือไม่ว่าเนื้อเล็บอันแข็งแกร่งนั้นมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก เมื่อใดก็ตามที่ระดับน้ำลดต่ำจะทำให้เล็บมีสภาพเปราะและหักง่าย ดังนั้น วิธีการดูแลรักษาสุขภาพเล็บง่ายๆ จึงทำได้ด้วยการดื่มน้ำให้มากๆ ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารจำพวกปลา และผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ในการบำรุงเล็บ เพียงเท่านี้สาวๆ ก็จะมีเล็บสวยและแข็งแรงแล้ว
- หากสาวๆ คนใดเกิดอุบัติเหตุจนทำให้เล็บแสนสวยหลุดออกไป ไม่ต้องตกใจเพราะเล็บใหม่จะงอกขึ้นมาแทนที่เองภายในเวลา 6 เดือน แต่หากสาวๆ รอไม่ไหว และอยากให้เล็บของคุณขึ้นเร็วทันใจ แนะนำให้หมั่นเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม จำพวกเนื้อปลาและนม หรือขนมเจลลีที่มีส่วนผสมของเจลาติน ซึ่งมีส่วนช่วยซ่อมแซมและสร้างการเจริญเติบโตให้กับเล็บ

แปรงแต่งหน้า


แน่ใจแล้วหรือว่าคุณรู้จัก “แปรงแต่งหน้า” คู่ใจดีพอ เพราะไม่ใช่แค่เครื่องสำอางเท่านั้นที่สำคัญ แต่การเลือกแปรงอย่างใส่ใจจะช่วยดับเบิ้ลผลลัพธ์ความงามขึ้นมาได้อีกมากทีเดียว
ชนิดของขนแปรง
1. ขนแปรงธรรมชาติ (ขนสัตว์) ขนสัตว์ที่นิยม ได้แก่ กระรอก ม้า เซเบิล โคลินสกี แพะ วัว และหมู อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นการทารุณสัตว์ เพราะช่างทำแปรงจะเลือกใช้ขนที่ผลัดตามธรรมชาติและใช้เฉพาะปลายขนเพื่อให้ได้ขนแปรงที่นุ่มนวลแบบสุดๆ ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแปรงเหล่านี้ถึงได้แพงนัก แต่รับรองว่าใช้แล้วไม่ผิดหวัง เพราะขนสัตว์จะดูดเครื่องสำอางประเภทฝุ่นได้ดีเป็นพิเศษ
2. ขนแปรงสังเคราะห์ สำหรับสาวที่มีงบไม่มากนัก ลองเลือกแปรงที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์อย่างเทคลอนและไนลอน ซึ่งมีความนุ่มใกล้เคียงขนสัตว์มากที่สุด แต่ถึงอย่างไรการสปริงตัวให้ขนแปรงคืนรูปอาจสู้ขนสัตว์ไม่ได้ เห็นได้ชัดจากขนแปรงที่จะมีการหักงอเสียรูปได้ง่ายกว่า
วิธีเลือกแปรง • ลองปัดขนแปรงบนหลังมือ (ถ้าเป็นบนใบหน้าได้ก็จะดีมาก) เพื่อทดสอบความนุ่มของขนแปรง • แปรงที่ดีควรมีด้ามจับขนาดเหมาะมือ ไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป • ขนแปรงควรมีรูปทรงที่สวยงาม ไม่หักงอ และไม่หลุดจากตัวยึดแปรงง่ายๆ

ประเภทของแปรง
1. Powder Brush หมดสมัยทาแป้งหนาเตอะแล้ว นาทีนี้เมคอัพอาร์ติสท์เขาใช้แปรงพุ่มกลมขนาดใหญ่ลงแป้งฝุ่นทั่วใบหน้าให้ดูเบาบางเป็นธรรมชาติ มีทั้งแบบด้ามยาว (Face Brush) และด้ามสั้น (KabukiBrush) เลือกได้ตามถนัดHow to: เทแป้งฝุ่นใส่บนฝาเล็กน้อย แล้วใช้ส่วนปลายของขนแปรงแตะวนเป็นวงกลมก่อนนำมาปัดวนเป็นวงกลมทั่วใบหน้า
2. Blusher Brush / Cheek Brush เลิกใช้แปรงอันจิ๋วที่แถมมาในตลับแล้วหันมาใช้แปรงปัดแก้มที่มีลักษณะค่อนข้างแบนและมีปลายกลมมนแทนดีกว่า ถ้าต้องการให้สีของบลัชออนกระจายตัวเป็นธรรมชาติ ควรเลือกแปรงที่มีขนาดใหญ่พอดีกับแก้ม เพราะถ้าเล็กเกินไปอาจทำให้เกลี่ยสีได้ไม่ทั่วจนแลดูเป็นจ้ำได้How to: ใช้หน้าแปรง (ด้านแบน) แตะบลัชออน จากนั้นวางแปรงในแนวนอนแล้วปัดเฉียงขึ้น แต่ถ้าอยากให้ดูมีเลือดฝาดให้ตั้งแปรงขึ้น (ด้ามแปรงชี้ลงพื้น) แล้วแตะแปรงบนโหนกแก้มเบาๆ
3. Angle Contour Brush มีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับแปรงปัดแก้มต่างกันที่ปลายจะมีหน้าตัดเฉียง แปรงแบบนี้เหมาะกับมือโปรมากกว่า เพราะใช้ในการเฉดดิ้งและไฮไลท์แก้ไขรูปหน้าได้ดีHow to: ใช้หน้าตัดของแปรงแตะเฉดดิ้งหรือลงไฮไลท์ตามแนวกระดูกต่างๆ
4. Foundation Brush สาวๆที่ชอบลงรองพื้นด้วยนิ้ว เปลี่ยนมาใช้แปรงเถอะ แปรงที่มีลักษณะแบนและปลายมนจะช่วยเกลี่ยครีมรองพื้นให้ดูเบาบางเสมอกันทั้งใบหน้า แถมยังช่วยประหยัดครีมรองพื้นด้วยHow to: เทครีมรองพื้นบนหลังมือแล้วใช้หน้าแปรง (ด้านแบน) แตะครีมรองพื้นมาเกลี่ยให้กระจายออกไปตามกรอบหน้าก่อนใช้ด้านปลายมนตกแต่งบริเวณร่องปีกจมูกปาก และใต้ตา
5. Eye Brush แปรงทาอายแชโดว์มีทั้งชนิดกลมและแบน โดยชนิดแบนจะใช้เกลี่ยเป็นบริเวณกว้าง ส่วนชนิดกลมจะใช้เน้นสีเฉพาะจุด เช่น ชิดขอบตา ชั้นพับตาHow to: ใช้แปรงแบนไล้สีให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นเน้นน้ำหนักสีหรือไล่สีด้วยแปรงกลม หรือถ้าอยากแต้มสีที่ขอบตาล่างและหัวตาก็ให้ใช้ปลายแปรงกลมเช่นกัน
6. Liner Brush ฮิตกรีดอายไลเนอร์ขนาดนี้คงต้องมีไว้สักอัน ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าชอบการวาดเส้นขอบตาแบบไหน ถ้าชอบเส้นเรียวเล็กให้เลือกเป็นแบบหัวกลมปลายแหลม แต่ถ้าอยากได้เส้นใหญ่หรือแต่งตาแนวสโมกกี้อายส์ให้ใช้แบบแบนปลายตัดจะดีกว่าHow to: สำหรับแปรงกลม แต้มอายไลเนอร์ชนิดน้ำหรือเจล แล้วค่อยๆ ลากเส้นให้ชิดขอบตาเหมือนการเขียนดินสอส่วนแปรงแบน ให้แต้มอายไลเนอร์แล้วใช้ปลายตัดกดให้เส้นต่อๆ กันไป หรือจะลากเป็นเส้นก็ง่ายเหมือนกัน
7. Lip Brush สารพัดประโยชน์ ใช้ลงสีให้ทั่วริมฝีปาก ตัดเส้นขอบปากให้คมกริบใช้ผสมสีลิปสติก และยังใช้แต้มลิปสติกที่ใกล้หมดได้อีกด้วยHow to: ใช้ด้านข้างของพู่กันตัดเส้นขอบปากก่อนลงสีให้ทั่วเรียวปาก แล้วจะใช้สีอื่นทาทับอีกครั้งเพื่อเป็นการผสมสีแบบง่ายๆ ก็ได้
8. Brow Brush ควรเลือกที่มีลักษณะเรียวเล็กและเฉียงเล็กน้อยHow to: หลังจากวาดคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วแล้ว ให้นำแปรงมาปัดเส้นคิ้วเพื่อให้แลดูนุ่มนวลเหมือนคิ้วจริง
9. Other Brush ยังมีแปรงหน้าตาไม่คุ้นเคยอีกมายมายสำหรับใช้ประโยชน์เฉพาะด้านแบบมืออาชีพ เช่น แปรงรูปพัดใช้สำหรับเกลี่ยแป้งต่างๆ ให้ดูบางเบา แปรงรูปครึ่งวงกลมสำหรับปัดแป้งฝุ่นให้กระจายทั่วทั้งใบหน้า
วิธีทำความสะอาดแปรง • จุ่มแปรงลงในน้ำอุ่นให้พอเปียก ระวังอย่าให้น้ำไหลเข้าบริเวณด้ามจับ เพราะจะทำให้กาวที่ยึดขนแปรงเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและหลุดร่วงได้ง่าย • ใช้แชมพูสระผมเด็กค่อยๆ ลูบขนแปรงเบาๆ ตามทิศทางของเส้นขน • ตั้งแปรงแนวดิ่งให้หัวแปรงทิ่มลง แล้วเปิดให้น้ำไหลผ่านจนสะอาด • จากนั้นซับแปรงบนผ้าขนหนูเบาๆ เพื่อจัดรูปทรงแปรงให้อยู่ในสภาพเดิม แล้วปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ (ห้ามตากแดด) โดยวางพาดกับโต๊ะ ให้ขนแปรงยื่นพ้นขอบโต๊ะออกมา • ห้ามหงายแปรงให้แห้งในถ้วยเด็ดขาดเพราะน้ำจะไหลเข้าบริเวณด้ามจับ และถ้าปล่อยให้แห้งโดยการทิ่มขนแปรงลงในถ้วยก็จะทำให้ขนแปรงบานเสียรูปทรงเช่นกัน
ที่มา http://www.pooyingnaka.com

วิธีเลือกซื้ออายแชโดว์



Colour Choice
เวลาจะเลือกซื้ออายแชโดว์ จำไว้เสมอว่า อายแชโดว์สีเข้มจะให้ความลึก ขณะที่อายแชโดว์สีอ่อนจะช่วยให้ดวงตาคุณดูโดดเด่นขึ้น แต่ถ้าเป็นอายแชโดว์สีสว่าง คุณต้องระวังมากทีเดียว สีโทนสว่างอาจทำให้ดวงตาคุณดูสวยสดใสได้ก็จริง แต่ก็เป็นจุดโฟกัสโดดเด้งได้ทันทีเลย และเสี่ยงกับการดูไม่เป็นธรรมชาติสุดๆ ถ้าโทนเมคอัพอื่นๆ บนใบหน้าของคุณไม่บาลานซ์รับกับอายแชโดว์สีสว่าง
กฎง่ายๆ ในการเลือกซื้ออายแชโดว์มีอยู่ว่า อย่าตัดสินใจด้วยตาเพียงอย่างเดียว คุณจำเป็นต้องลองสีอายแชโดว์ทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะส่วนใหญ่อายแชโดว์ที่เห็นในตลับ มักมีสีเข้มเกินกว่าสีจริง และไม่จำเป็นต้องเลือกให้สีอายแชโดว์แมทช์กับสีตาของคุณ แต่จะเป็นไอเดียเก๋กู้ดกว่าถ้าเลือกเฉดสีที่จะเสริมเสน่ห์ดวงตาและสีผิวธรรมชาติของคุณให้ดูสวยยิ่งขึ้น คนมีสีผิวออกเหลืองเหมาะกับเฉดสีน้ำตาลมากๆ คนที่มีดวงตาสีน้ำตาลเข้มมาก ขอบอกว่าคุณโชคดีสุดๆ เพราะคุณสามารถเลือกทาอายแชโดว์ได้เกือบทุกสีเลย แต่สีที่จะทำให้คุณดูสวยจับตาสุดๆ ก็ต้องเป็นสีน้ำตาล สีเทาถ่านๆ หน่อย และสีมะฮอกกานี

Powder or Cream
ถ้าจะถามว่า อายแชโดว์ฝุ่นหรือเนื้อครีมแบบไหนน่าใช้ที่สุด ก็ขอออกตัวเลยว่า เป็นคำถามที่ตอบยากมากค่ะ ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับความชอบของคุณเองว่าชอบแบบไหนมากกว่า แต่ถ้าคุณเป็นประเภทรักพี่เสียดายน้อง ปิ๊งทั้งสองแบบ เราก็ขอแนะนำให้เลือกใช้แบบเนื้อครีมกึ่งเนื้อแป้ง ลักษณะจะเป็นเนื้อครีมแต่เมื่อได้เกลี่ยลงบนเปลือกตาแล้ว เนื้อครีมจะแปรเปลี่ยนเป็นแป้ง ทาง่ายสุดๆ และสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบอายแชโดว์ชนิดครีม เราก็มีเทคนิคที่จะช่วยให้เนื้อครีมติดนานขึ้น ไม่ละลายไปพร้อมกับเหงื่อในระหว่างวัน คุณควรลงแป้งฝุ่นบางๆ ก่อนขั้นตอนทาอายแชโดว์ แต่สาวๆ รุ่นใหญ่ที่มีริ้วรอยและรอยย่นที่เห็นชัด คุณไม่เหมาะกับอายแชโดว์เนื้อครีมเท่าไรนัก ขอแนะนำให้เลือกใช้เป็นอายแชโดว์ชนิดฝุ่นแทน

Optical Illusion
1 คนใส่แว่นสายตาก็แต่งตาให้สวยฉ่ำได้เหมือนกัน แต่ก่อนที่จะลงสีอายแชโดว์ คุณควรพิจารณาเลนส์แว่นสายตาของคุณก่อนว่าเป็นเลนส์ชนิดไหน ถ้าคุณสายตาสั้น เลนส์สายตาประเภทนี้จะขยายตาให้ดูใหญ่ขึ้น ดังนั้นถ้ารูปตาของคุณกลมโตอยู่แล้ว ควรลดความเข้มของสีอายแชโดว์ลง แนะนำให้เลือกเป็นเฉดสีออกธรรมชาติ ในทางตรงข้าม ถ้าเป็นคนสายตายาว เลนส์แว่นสายตาจะบีบรูปตาของคุณให้ดูเล็กลง จึงควรเน้นขั้นตอนที่ทำให้ตาของคุณดูคมกลมโตขึ้น โดยการไล้อายแชโดว์ไปตามไลน์กระบอกตาจนสุดมุมหางตา สำหรับบริเวณเปลือกตา ก็อย่าลงสีให้ดูหนักมือมากนักและควรเลี่ยงอายแชโดว์สีเข้มๆ
2 ถ้าอยากให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น แนะนำให้ใช้อายแชโดว์สีอ่อนๆ ระบายตั้งแต่เปลือกตาจนถึงบริเวณกระดูกโหนกคิ้ว โดยที่สาวผิวขาวมากต้องเลือกทาอายแชโดว์สีชมพูอ่อนมากๆ (มองหาสีที่ใช้ชื่อว่า Pale Pink) สีเบจเหมาะกับผิวผสมและสำหรับสาวผิวเข้ม คุณเหมาะกับสีเทาอมน้ำตาล (มองหาสีอายแชโดว์ที่เขียนว่า Taupe) จากนั้น เลือกใช้อายไลเนอร์สีขาวหรือสีเบจ
แล้วค่อยๆ จุดสีลงเชื่อมระหว่างช่องว่างตรงเส้นขนตาล่างแต่ละเส้น ไม่แนะนำให้เขียนขอบตาเต็มรูปตาด้วยอายไลเนอร์สีเข้มๆ เพราะวิธีนี้จะทำให้ตาคุณดูเล็กลง และสุดท้ายใช้แปรงอันเล็กๆ แต้มสีเทาหรือสีน้ำตาลไล้สีไปตามแนว


ที่มา http://www.pooyingnaka.com/

วิธีปัดขนตาให้สวย

วิธีปัดขนตาให้สวย

1. ถ้าแปรงปัดชุ่มไปด้วยเนื้อมาสคาร่า ให้ใช้กระดาษทิชชูซับขนแปรงก่อน จะทำให้มาสคาร่าไม่เลอะขณะปัดตา
2. ควรหลีกเลี่ยงการชักแปรงเข้าออกจากหลอด เพราะจะทำให้เนื้อมาสคาร่าแห้งเร็ว
3. ถ้าอยากให้เนื้อมาสคาร่าติดแปรงปัดมากขึ้น ให้หมุนแปรงขณะที่อยู่ข้างในหลอด
4. ควรปัดมาสคาร่าเคลือบขนตามากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้ขนตาดูหนาและยาวขึ้น ควรปัดซ้ำอีกรอบโดยปัดจากโคนขนตาไปถึงปลายขนตา หากปัดพลาด ให้ปัดซ้ำครั้งที่ 3 เฉพาะตรงปลายขนตาเท่านั้น และควรรอให้มาสคาร่าครั้งแรกแห้งก่อนแล้วจึงปัดซ้ำอีกครั้ง
5. การปัดมาสคาร่าที่ขนตาล่างให้ปัดแปรงไปตามแนวขวางเพื่อไม่ให้เนื้อมาสคาร่าเลอะเกินไป ช่วยให้ขนตาไม่ติดกันเป็นแพและแข้งกระด้าง
6. อายุของมาสคาร่าอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้เนื้อมาสคาร่าจะแห้งและเกาะกันเป็นก้อน
7. ถ้ามีรอยคล้ำที่ดวงตา ให้ปัดเฉพาะขนตาบนเพราะจะทำให้ดวงตาเปล่งประกายสดใส
8. ถ้าเป็นคนที่มีตาชิด ให้ปัดมาสคาร่าเฉพาะด้านหางตาทั้งขนตาบนและล่าง
9. ถ้าคนมีดวงตาโตลึก ให้ปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและล่าง และแปรงตาให้เรียงเส้นสวยงาม
10. ถ้าเป็นคนตาเล็ก ให้ปัดมาสคาร่าเฉพาะขนตาบนและเน้นที่ขนตาด้านนอก
ถ้าอยากมีขนตาที่งอนสวย ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้.

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วิธีซื้อผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัว

คนเราทุกคนย่อมมีกลิ่นตัวด้วยกันทั้งนั้น และแต่ละคนก็จะมีกลิ่นเฉพาะบุคคลที่แตกต่างกัน บางคนจะสังเกตได้ว่ามีกลิ่นตัวที่ฉุนและแรงมากซึ่งเป็นที่รังเกียจของคนรอบข้าง วันนี้มีวิธีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นตัวมาฝากค่ะ...
วิธีการเริ่มต้นเมื่อรู้ตัวว่ามีกลิ่นตัวที่รุนแรง คือ จะต้องรักษาอนามัยของตัวเอง อาบน้ำให้สะอาด เปลี่ยนเสื้อผ้าทุกวัน เป็นขั้นพื้นฐานที่ต้องกระทำ หลังจากนั้นจึงเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
วิธีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แบ่งได้ 4 ประเภท ดัง
นี้
1. น้ำหอม จัดเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมใช้กลบกลิ่นตัววิธีหนึ่ง แต่ถ้าหากร่างกายมีเหงื่อมากและไม่ได้ชำระล้างให้เรียบร้อยก่อนใส่ น้ำหอมก็จะส่งผลให้เกิดกลิ่นใหม่ที่ฉุนไม่ชวนเข้าใกล้ได้เช่นกัน
2. ผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ จะใช้ทาบริเวณใต้วงแขนหรือรักแร้หรือบริเวณอับชื้นส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เพื่อทำลายและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ เป็นสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่นตัว
3. ผลิตภัณฑ์ดูดขับกลิ่น องค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ คือ ต้องสามารถดูดซับกลิ่นฉุนไว้ เพื่อไม่ให้ระเหยออกสู่ภายนอก สามารถใช้ได้ผลดีและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
4. ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ องค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ คือ สารระงับการขับเหงื่อ อลูมิเนียมคลอไฮเดรท มีทั้งรูปแบบของโลชั่น ครีม โรลออน และ สเปรย์
แต่ละประเภทมีวิธีการกำจัดกลิ่นตัวที่แตกต่างกัน ใครที่มีปัญหาลองพิจารณาตัวเองว่าสาเหตุกลิ่นกาย เกิดจากสาเหตุใด และลองทำเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมดู ที่สำคัญ อย่าลืมอ่านฉลากของสินค้าก่อนที่จะเลือกซื้อนะคะ

เต่าเหยียบโลก


ใครมีปัญหากลิ่นกาย กลิ่นตัว กลิ่นเต่า ใช้ Roll on หรือน้ำยาดับกลิ่นตัวแล้วไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ลองหันมาใช้ สมุนไพร ตราเต่าเหยียบโลกกัน

!! ดูจากข้อความโฆษณาสินค้า และยี่ห้อของสิค้า เดี๋ยวนี้สาวๆก็หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสมุนไพรกัน เรามาดูสรรพคุณสินค้าตัวนี้กันดีกว่า


สรรพคุณ : แป้งทาระงับกลิ่น และเหงื่อที่ใต้รักแร้ ปรุงด้วยสมุนไพรล้วนๆ ช่วยให้รักแร้ขาว ไม่เหนียว ไม่เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า (แก้เม็ดผดผื่นคัน)
วิธีใช้ : ทาวันละ 1 ครั้ง หลังอาบน้ำ โดยหลังจากอาบน้ำไม่ต้องเช็ดรักแร้ ให้แห้งสนิท เพียงให้ใช้ผ้าซับแล้วเทแป้งลงฝามือเล็กน้อยทาลงบนรักแร้ ให้ทั่วแล้วรอให้แห้งสักพักค่อยใส่เสื้อตามปกติทำให้มั่นใจตลอดทั้งวัน
สงสัยต้องลองดูซะแล้ว ว่าจะจริงดังคำโฆษณาหรือป่าว
เครดิตภาพจาก http://herb-deodorant-shop.blogspot.com/



วิธีถนอมริมฝีปากให้สวยอิ่มอยู่เสมอ

1.ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 4-6 แก้ว เพื่อป้องกันการเกิดร้อนใน ซึ่งถ้าหากเป็นร้อนในแล้วจะทำให้ปากแห้งหรือ แตกลอกเป็นขุยได้ง่าย
2.ห้ามใช้ลิ้มเลียริมฝีปากบ่อยๆ เพราะมันจะทำให้ริมฝีปากแห้งกว่าเดิม
3.ก่อนนอนควรทาลิปกลอส หรือ ลิปมันเป็นประจำ เพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้น และป้องกันริมฝีปากแตก หรือเป็นขุยได้
4.เวลาที่ริมฝีปากของคุณเป็นแผล ไม่ควรที่จะแกะสะเก็ดแผลเด็ดขาด
5.ทาลิปสติกที่มีส่วนผสมป้องกันรังสียูวี ถ้าอยู่กลางแดดแจ้งมากๆ
6.ระวัง!… ยางผลไม้บางชนิด เพราะเมื่อมันสัมผัสกับริมฝีปากของคุณแล้วจะทำให้ริมฝีปากมีสีคล้ำได้
7.หากมีปัญหาปากเป็นขุย หลังแปรงฟันเสร็จใหม่ ๆ ในขณะที่ริมฝีปากยังชุ่มชื้นด้วยน้ำอยู่ ให้ใช้แปรงสีฟันแปรงเบา ๆ ที่ริมฝีปากบนและล่าง เพื่อให้ขุยหรือสะเก็ดลอกออก จากนั้นจึงใช้ลิปมันทาบางๆ
ลองนำเกร็ดความรู้ที่นำมาฝาก ไปใช้ดูแลรักษาริมฝีปากดูนะคะ รับรอง ริมฝีปากของคุณจะสวยอวบอิ่มเสมอค่ะ :)

22 ยี่ห้อ เครื่องสำอางอันตราย

ไปอ่านเจอมาจากเวบกระปุก เลยเอามาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน

วันนี้ (2 มิ.ย.) ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศรายชื่อเครื่องสำอางมีสารอันตรายเพิ่มเติมอีก 22 รายชื่อ ได้แก่
1.โลชั่นกันแดด กันฝ้า เมลาแคร์
2. มิสเดย์ ครีมแก้ฝ้าใช้กลางคืน ทั้งสองผลิตภัณฑ์ตรวจพบสารไฮโดรควิโนน
3. ครีมฝ้าเมลาแคร์
4. SG เอสจี โลชั่นปรับสภาพผิวหน้า
5. พอลล่า ครีมทาฝ้า (ครีมทากลางคืน)
6. พอลล่า ครีมทาฝ้า (ครีมทากลางคืน) ลำดับที่ 3-6 ตรวจพบสารไฮโดรควิโนน และกรดเรทิโนอิก
7. POLLA MELASMA SUNSCREEN LOTION
8. โลชั่น PREAME
9. ครีม CHAIN (NIGHT CREAM)
10. WEiJiAO Whitening Night Cream ลำดับที่ 7-10 ตรวจพบกรดเรทิโนอิก
11. POLLA WHITENING CREAM
12. MUI LEE HIANG
13. ครีม PREAME
14. PUFA ภูฟ้า สูตรชาเขียว มะเฟือง
15. พอลล่า ครีมทาสิว (ครีมทากลางวัน)
16. พอลล่า ครีมทาสิว (ครีมทากลางวัน)
17. พอลล่า ครีมทาสิว (ครีมทากลางวัน)
18. WEiJiAO Fade-Out Day Cream
19. เพียว ไวท์ ครีมโสมไข่มุกผสมบัวหิมะ
20. Mind Skin Baby Face Cream
21. FAYLACIS Night Cream และ
22. D9L ไม่ระบุรายละเอียดที่ฉลาก ลำดับที่ 11-21 ตรวจพบสารประกอบของปรอท


ภญ.วีรวรรณ กล่าวต่อว่า อย่า ซื้อผลิตภัณฑ์ทั้ง 22 รายการนี้มาใช้อย่างเด็ดขาด เพราะอาจได้รับอันตรายจากสารห้ามใช้ เช่น ไฮโดรควิโนน จะทำให้เกิดจุดด่างขาวที่หน้า ผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวรรักษาไม่หาย กรดเรทิโนอิก ทำให้แสบร้อนรุนแรงผิวหน้าลอก และเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ในขณะที่สารประกอบของปรอท มีอันตรายร้ายแรงมาก ทำให้ผิวหน้าดำ ผิวบางลง และเมื่อสารปรอทสะสมในร่างกาย จะทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบได้อีกด้วย
ภญ.วีรวรรณ กล่าวเพิ่มว่า ขอให้ผู้ขายเครื่องสำอางให้ความร่วมมือ อย่านำเครื่องสำอางทั้งหมดนี้มาขายโดยเด็ดขาด หากตรวจพบ อย.จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดให้ถึงที่สุด โดยจะมีโทษเหมือนกับผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะผู้ขายเป็นแหล่งสำคัญที่จะกระจายผลิตภัณฑ์สู่มือผู้บริโภค หากผู้ขายไม่มีความรับผิดชอบ นำผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพหรือมีอันตรายมาขาย ผู้บริโภคจะมีความเสี่ยงสูงในการได้รับอันตราย

Credit : http://hilight.kapook.com/view/37608

แฟชั่นเครื่องสำอางแบบแปลกๆ

วันนี้นั่งเสิชหาอะไรดูไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ก็จะเข้าพันทิบเป็นส่วนมาก แล้วก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นว่ามีเครื่องสำอางแบบแปลกๆหรือว่า น่ารักๆให้ดูบ้างหรือป่าว ก็ไปเจอมานิดหน่อยจากเวบ โชว์เด็ด เลยจะเอามาให้เพื่อนๆดูกันว่ามันแปลกยังไง ??


เริ่มจากรูปแรก มันเหมือนกับแหนบ แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นเครื่องสำอางยังไง งงมากคะ














รูปที่สอง อันนี้น่าจะเป็นลิปกรอส แพกเกจ น่ารัก + แปลกๆดี คะ











มาดูรูปที่สามกัน ดูๆแล้วน่าจะเป้นบรัชออน อันนี้ก็แปลกๆ เก๋ๆ ดี น่ะ
















มาดูรูปที่สี่กันต่อ อันนี้บอกไม่ถูกแฮะว่ามันคืออะไร ดูจากข้างในแล้วมันเหมือนกับที่ทาอายแชโดว์ อันนี้ไม่แน่ใจ คิดว่าน่าจะเป็นของใช้สำหรับคุณๆผู้หญิง ไว้คราวหน้าจะมาอัพเรื่องอื่นๆให้ดูกันอีก













วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

ความหมายเครื่องสำอาง

วันนี้เรามาดูความหมายของคำว่าเครื่องสำอางกันดีกว่านะคะ
เครื่องสำอางมีส่วนในการช่วยเสริมบุคลิกและความงามได้อย่างมาก ทำให้ใบหน้าธรรมดากลับสวยกลับมีสเน่ห์น่ามองมากขึ้นได้ นอกจากนี้เครื่องสำอางยังปกปิดอำพรางส่วนบกพร่องให้ดูกลมกลืนไม่เด่นชัดได้

เครื่องสำอาง คือ สิ่งที่ใช้พ่น ทา พอก เช็ด ขัด ถู หรือประพรมตามส่วนต่างๆของร่างกาย เพื่อจุดประสงค์หลายประการคือ
1.เพื่อทำความสะอาดผิว
2.เพื่อปกป้องผิวจากภายนอก
3.เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
4.เพื่อเพิ่มสเน่ห์และความพึงพอใจให้กับผู้ใช้

ที่มา http://www.biopluschem.com/




วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2552

ประชาธิปไตยของกลุ่มเสื้อแดง?

ตั้งแต่มีการเริ่มชุมนุมของเหล่าเสื้อแดง ทำให้เกิดเหตุการ์ร้ายแรง วุ่นวายกันไปหมด ที่เห็นกันชัดเจนมากคือวันที่กลุ่มเสื้อแดงทุบรถที่มหาดไทยและจะทำร้ายนายกฯและเลขาของนายก เป็นการกระทำที่ไร้สติและป่าเถื่อนมาก สังเกตได้อีกว่า ทำไมตำรวจถึงทำหน้าที่ละหลวม แทนที่จะให้รถของนายกผ่านไปได้ แต่นี่กลับติดไฟแดง เป็นไปได้อย่างไร จากภาพที่เห็นเสื้อแดงยังจะมีมาแถอีกดูได้จากสภาพของเลขา หากคิดแบบกลาง คนธรรมดาหากโดนก็แจ้งข้อหาพยายามฆ่าแล้ว หากคนทำมีสติและยั้งคิดมากกว่านี้ก็คงดี เพราะนี่เป็นอาชญากรร้ายแรงมากเพราะคนที่โดนทำร้ายเป็นถึงผู้นำของประเทศ และนี่หรือการอยากได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงคือการทำร้ายผู้นำของประเทศ ?



สงกรานต์เหงาจัง

สงกรานต์ปีนี้เงียบมาก ไม่ได้ออกไปสาดน้ำที่ไหนเลย  นอนเน่าอยู่ที่หอ บ้านก็ไม่ได้กลับ เพราะเจ้าพวกเสื้อแดงชุมนุมกันทั่วกรุงเทพฯ ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวายกันไปหมด  อยากไปสาดน้ำก็อยากไป  แต่ดันโดนคุณป๊าคุณม๊าโทรมาสกัดกั้น ไม่ให้ออกไปเล่นน้ำอีก กลัวลูกสาวตัวน้อยๆจะเกิดอุบัติเหตุหรือโดนลูกหลงไปด้วย  ^-^ เซ็งบรม สรุปว่า ปีนี้เป็นปีแรก ที่ไม่ได้ออกไปเล่นน้ำ เฮ้ออ